เพิ่มยอดขายด้วยระบบกระจายกลิ่นกลยุทธ์ผ่านกลิ่นหอมที่คุณคาดไม่ถึง
Scent Marketing อาจจะเป็นคำที่ไม่คุ้นหูของใครหลายๆ คน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดผ่านกลิ่น ที่ไม่เพียงแค่ให้กลิ่นหอมๆ ช่วยเพิ่มความประทับใจเพียงเท่านั้น แต่จะเป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยมที่จะทำให้หน้าร้านของคุณมีความโดดเด่น แถมยังส่งผลถึงยอดขายให้มีเปอร์เซ็นที่เพิ่มขึ้น
หลายปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 กลายเป็นตัวเร่งให้หลายธุรกิจเริ่มที่จะปรับตัวไปใช้ช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้น หลายๆ ธุรกิจที่มีหน้าร้านต้องปิดตัวลง ซึ่งเป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจ ทั้งการค้าขายและการให้บริการถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งนั่นยังรวมถึงการทำการตลาดในรูปแบบออนไลน์ด้วย
แต่ถึงอย่างไรการมีหน้าร้านมักได้เปรียบมากกว่าการขายออนไลน์เพียงช่องทางเดียว ทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือ การตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่ง่ายขึ้นเพราะได้ลองสินค้าจริง ทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนในการขนส่ง รวมถึงเป็นการสร้าง Brand Loyalty ไปในตัว จากการบริการที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าด้วย
กลยุทธ์ทางการตลาด นับเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านหรือช่องทางการขายออนไลน์ล้วนมีการทำการตลาดที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งการทำการตลาดที่ดีจะส่งผลถึงยอดขายการสั่งซื้อในแต่ละเดือนที่มีเปอร์เซ็นเพิ่มขึ้น
Scent Marketing หรือ การทำตลาดด้วยกลิ่น เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง ใช้ในสื่อสารผ่านกลิ่น Signature Scent ที่ถูกวางกลยุทธ์มาอย่างดี เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า กลิ่นหอมที่เหมาะสมจะถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์ออกมาได้อย่างชัดเจน ซึ่งกลิ่นจะช่วยเพิ่มยอดขาย ช่วยเรื่องการสร้างแบรนด์และสร้างภาพลักษณ์ให้มีความน่าจดจำมากยิ่งขึ้น
ความพิเศษที่การมีหน้าร้านสามารถทำการตลาดได้แตกต่างจากช่องทางการขายออนไลน์ คือ การทำกลยุทธ์ผ่านกลิ่น ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ นั่นก็คือ “ระบบกระจายกลิ่น” หรือที่เรียกว่า “Scent Diffuser System” เป็นกลยุทธ์ที่ใช้กลิ่นในการสร้างบรรยากาศของร้านและสถานที่ สามารถนำมาเป็นจุดแข็ง ใช้ในการดึงดูดลูกค้า เพื่อให้เกิดความประทับใจตั้งแต่เมื่อเปิดประตูเข้าร้านมาในครั้งแรกเลยล่ะค่ะ
นักวิจัยจาก Washington State University พบว่า กลิ่นธรรมดาที่ไม่มีความซับซ้อน ทำให้ผู้ซื้อได้ใช้เวลาชมสินค้าภายในร้านนานมากกว่าปกติ เพราะไม่ได้รู้สึกว่ากลิ่นเป็นการรบกวนมากจนเกินไป ทำให้สมองปลอดโปร่งเมื่อได้สัมผัสกับกลิ่นที่สดชื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เพิ่มเปอร์เซ็นในการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
จากการทดลองการใช้กลิ่นบรรยากาศ ในกลุ่มผู้ซื้อสองกลุ่มที่ซื้อของเป็นประจำ และกลุ่มผู้ที่ซื้อของนานๆครั้ง พบว่า เมื่อมีการเปิดใช้กลิ่นในการสร้างบรรยากาศ ผู้ซื้อทั้งสองกลุ่มมีความประทับใจในกลิ่นเป็นจำนวนมากกว่าครึ่ง ต่อมาได้ใช้กลิ่นบรรยากาศเป็นกลิ่นของหญ้าตัดใหม่ในร้านอุปกรณ์การกีฬา พบว่ามีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 26% จากปกติ
ซึ่งแบรนด์ Nike เองก็มีการเลือกใช้ Signature Scent ในการทำการตลาด เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกเฟรช สปอร์ต เจาะกลุ่มลูกค้าที่สนใจในเรื่องของกีฬา ทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินในการเลือกซื้อสินค้า นอกจากนี้ยังมี ผลการวิจัยของ ดร.อลัน เฮิร์สซ์ นักประสาทวิทยาและจิตแพทย์ ที่ช่วยสนับสนุนการใช้กลิ่นในบรรยากาศ โดยมีการจำลองร้านรองเท้า Nike ที่มีลักษณะเหมือนกัน จำนวน 2 ร้าน แตกต่างกันเพียงแค่ร้าน A มีกลิ่นหอมของดอกไม้ ซึ่งร้าน B ไม่มีกลิ่นหอม ซึ่งผู้ที่ได้เข้าชมทั้งสองร้านเป็นจำนวนสูงถึง 84% ชื่นชอบร้าน A มากกว่า B จะเห็นได้ว่าการใช้กลิ่นสามารถสร้างอิทธิพลความสนใจ ภาพลักษณ์และความประทับใจแก่ลูกค้าได้
ในบทความหน้าจะพาไปรู้จักกับแบรนด์ระดับโลกที่มีการใช้ Scent Marketing ในการทำการตลาด จะเป็นแบรนด์ไหน ทุกคนจะรู้จักหรือไม่ ไม่แน่นะคะ อาจจะเป็นแบรนด์ที่ทุกคนคุ้นหูอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่ามีการใช้กลิ่นในการทำการตลาดก็ได้ มาติดตามไปพร้อมๆกันนะคะ
Referent : https://mycloudfulfillment.com/offline-shop/
Referent : https://digimusketeers.co.th/blogs/online-marketing/scent-marketing
Referent : https://www.thumbsup.in.th/bring-business-to-online
Referent : https://www.businessnewsdaily.com/3469-smells-shoppers-spend-more.html
Referent : https://shorturl.asia/8LD3C
